เนรุชาดก ชาดกว่าด้วยอานุภาพของเนรุบรรพต
หงส์สองพี่น้องได้บินท่องเที่ยวผ่านไปทางภูเขาเนรุบรรณพต ซึ่งเนรุบรรพตแห่งนี้เป็นภูเขาวิเศษสัตว์ใด ๆ ก็ตามเมื่อเข้ามาอยู่ที่นี่จะมีสีสันสวยงาม ดั่งทองทุกตัว “ น้องเอ๋ย สัตว์สกุลใดจิตและพฤติกรรมก็ย่อมเป็นไปตามสัญชาติญาณ ตนไม่อาจเปลี่ยนสีได้อย่างภายนอกหรอก ” หงส์ผู้พี่ได้กล่าวกับน้องของตน
วันอาสาฬหบูชา 2567 ประวัติความเป็นมาความสำคัญและธรรมเนียมปฏิบัติ
วันอาสาฬหบูชา 2567 ตรงกับวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2567 วันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของพระพุทธศาสนา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ในสมัยพุทธกาลมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 4 ประการ
รุหกชาดก ชาดกว่าด้วยรุหกะปุโรหิต
ปุโรหิตได้นำเอาเครื่องม้าต้นมาสวมใส่ร่างกายของตนเองตามคำยุยงของภรรยา ผู้คนต่างพากันขบขัน แต่ก็แสร้งชมด้วยความเกรงใจ ปุโรหิตปลาบปลื้มกับคำชื่นชมนั้นได้ไม่เท่าไหร่ เมื่อเดินผ่านพระพักตร์พระเจ้าพาราณสี ความเป็นจริงก็ปรากฏให้รู้
สีหจัมมชาดก ชาดกว่าด้วยลาห่มหนังสิงโต
พ่อค้าเจ้าเล่ห์เอาหนังสิงโตที่ตัวเองเก็บไว้ขายให้คหบดีอีกเมืองหนึ่งมาคลุมตัวลาของตน แล้วนำลาไปปล่อยไว้ในนาข้าวสาลีของชาวบ้าน ส่วนตนก็เดินทางไปขายของตามปกติ
กัณหทีปายนชาดก ชาดกว่าด้วยความรักที่มีต่อบุตร
“ เมื่อตอนแรกที่เราบวช เรายินดีประพฤติพรหมจรรย์ได้เพียง ๗ วันเท่านั้น จากนั้นแม้เราไม่ยินดีก็ทนประพฤติพรหมจรรย์ถึง ๕๐ กว่าปี ด้วยความสัตย์อันนี้ ขอให้ยัญญทัตตกุมารจงรอดชีวิตเถิด ” มัณพัพยะได้ถามถึงสาเหตุที่ทีปายนดาบสฝืนประพฤติพรหมจรรย์โดยไม่ยอมสึกมาครองเรือน “ ถ้าท่านไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ แล้วทำไมท่านไม่ออกมาครองเรือนหละ ” “ เพราะเราไม่อยากให้ใครว่าเราเป็นคนเหลวไหล กลับกรอกนะสิ
ขุรปุตตชาดก ชาดกว่าด้วยการทำตนให้ไร้ประโยชน์
พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุผู้ถูกภรรยาเก่าโลมเร้า แล้วทรงซักถามภิกษุนั้น “ จริงหรือภิกษุ ได้ทราบว่าเธอกระสันอยากสึก ” “ จริงพระเจ้าค่ะ ” “ เธอกระสันอยากสึกเพราะเหตุอะไร ” “ เพราะภรรยาเก่าพระเจ้าค่ะ ” “ ดูกรภิกษุหญิงนี้ทำสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่เธอไม่เฉพาะในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อนเธอกำลังจะกระโดดเข้าไฟตายเพราะอาศัยหญิงนี้ แต่อาศัยบัณฑิตจึงได้ชีวิตไว้ ”
กายนิพพินทชาดก ชาดกว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย
รุ่งเข้าวันหนึ่ง ชายป่วยได้ตื่นเช้ากว่าปกติ เขาหันหน้าออกไปทางหน้าต่างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ เขามองออกไปดูวิถีชีวิตของชาวบ้าน พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นพระภิกษุสงฆ์ออกมาบิณฑบาต แล้วเขาก็เกิดความคิดอย่างหนึ่ง “ จริงสินะ ชีวิตมันไม่เที่ยงจริง ๆ สังขารย่อมร่วงโรยเป็นธรรมดา ถ้าเราหายจากโรคนี้เราจะบวช ”
เสยยชาดก ชาดกว่าด้วยคบคนประเสริฐก็ประเสริฐ
เมื่ออำมาตย์ผู้หนึ่งได้มีโอกาสไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา พระพุทธองค์จึงตรัสถามถึงเรื่องการถูกใส่ร้ายจนต้องราชทัณฑ์ “ แม้หม่อมฉัน จะถูกจองจำใส่โซ่ตรวน แต่สิ่งนี้กลับทำให้หม่อมฉันได้รับประโยชน์ คือได้โอกาสปฏิบัติธรรม จนได้เห็นดวงตาแห่งธรรมพะยะค่ะ ”
อุุทัญจนีชาดก ชาดกว่าด้วยหญิงโจร
พระโพธิสัตว์รู้ดีว่าไม่อาจเหนี่ยวรั้งผู้เป็นลูกที่กำลังลุ่มหลงในตัวหญิงผู้นั้นได้ จึงอนุญาตและให้โอวาทไว้ “ เอาเถิดลูกพ่อ หากเจ้าต้องการไปอยู่กับนาง เจ้าก็ไปเถิด ” “ ถ้างั้นข้าลาล่ะนะท่านพ่อ ” “ ช้าก่อนลูกเอ๋ย เมื่อเจ้าไปอยู่กับนางแล้ว หากวันใดนางใช้ให้เจ้าทำงานหาเลี้ยงดูนาง เมื่อนั้นเจ้าจงกลับมาหาพ่อ ” ดาบสหนุ่มมาอยู่กับนางผู้ล่อลวงนั้นได้ไม่นาน นางก็ให้เขาตกอยู่ในอำนาจตน
จุลปทุมชาดก ว่าด้วยการลงโทษหญิงชายทำชู้กัน
พระจุลปทุมกุมารได้ทรงช่วยเหลือโจรที่โดนตัดแขนตัดขาที่ถูกปล่อยลงแพล่องตามแม่น้ำ พระองค์ทรงเยียวยาให้อาหารดูแล จนหายบาดเจ็บในเวลาต่อมา การสร้างบุญของเจ้าชายครั้งนั้นเหมือนการเก็บงูเห่ามาเลี้ยง เมื่อเจ้าชายออกไปหาผลไม้ในป่า พระชายาสาวก็กระทำอนาจารร่วมกับโจรนั้นทุกครั้ง ความชั่วมักหอมหวานจนกลายเป็นสิ่งถูกต้องเสมอในความคิดของคนชั่ว