คำพระตถาคต
สมัยนั้นแล เด็กอ่อนได้แต่นอน นั่งอยู่บนตักของอภัยราชกุมาร ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะอภัยราชกุมารว่า ดูก่อนราชกุมาร ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
ความสุข สุขที่ควรกลัวและไม่ควรกลัว
กามคุณนี้มี 5 อย่าง คือ รูปที่รู้ได้ด้วยจักษุอันน่าปราถนา น่าใคร่ น่าพอใจ เป็นที่รัก ประกอบด้วยกาม เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด เป็นที่รู้ได้ด้วยโสต... กลิ่นที่รู้ได้ด้วยฆานะ... รสที่รู้ได้ด้วยชิวหา... โผฏฐัพพะที่รู้ได้ด้วยกาย อันน่าปราถนา น่าใคร่ น่าพอใจ
ทำไมถึงพลาดสิ่งที่อยากได้
ภิกษุทั้งหลาย ผู้ไม่ได้รับการศึกษา ไม่เห็นอริยเจ้า ไม่ฉลาดต่อคุณธรรมของพระอริยเจ้า เมื่อเขาไม่รู้จักสิ่งที่ควรเสพ,ไม่ควรเสพ,ควรคบ,ไม่ควรคบ,เพราะเหตุ เขาไม่รู้ตามที่เป็นจริงเช่นนั้น
กามเหมือนคบเพลิงหญ้า
กามทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เปรียบด้วยคบเพลิงหญ้า มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก... หาส่วนเหลือมิได้
บุญมากบรรลุธรรมง่าย
บุญเป็นต้นทุนแห่งความสำเร็จในทุกสิ่ง คนมีบุญมากความสุขความสำเร็จมาก มีบุญน้อยความสุขความสำเร็จก็น้อย
เอาเต่าเป็นครู
สังคมปัจจุบันนี้มีภัยอยู่รอบตัว โดยเฉพาะภัยทางอารมณ์ที่คอยรุมเร้าจิตใจของเราให้เศร้าหมอง เร่าร้อนกระวนกระวาย
เครื่องกั้นจิตปิดกั้นใจ
“จิต” ของมนุษย์นั้นเดิมทีมีความใสสว่าง สะอาดบริสุทธิ์ หรือที่เรียกว่า “จิตประภัสสร” แต่เพราะถูกอาคันตุกะกิเลส(กิเลสที่จรมา)
การเจริญสติให้อยู่กับปัจจุบัน
“เวลา” เป็นสิ่งที่มีค่ามาก เพราะเมื่อมันผ่านไปแล้วจะไม่มีวันหวนกลับคืน แต่คนเรามักจะใช้เวลาหมดไปกับสิ่งที่ไร้สาระ
สอนตนเองให้ได้
บุคคลที่จะประสบความสำเร็จ ในการสร้างบารมีจะต้องรักในการฝึกฝนตนเองทั้งกาย วาจา และใจ
ต้องรักษาใจ
“ใจ” มีธรรมชาติที่อ่อนไหว ปรวนแปรและล่องลอยไปในทุกๆ ที่ได้ง่ายแสนง่าย แม้แต่ช่วงเวลาเพียงเล็กน้อย