ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 170
เมื่อทหารเหล่านั้น นำเสด็จกษัตริย์ทั้งสี่พระองค์มาถึงเชิงบันได ก็ช่วยกันเปิดปากประตูอุโมงค์ แล้วทูลเชิญให้เสด็จพระดำเนินไปตามเส้นทางนั้น เมื่อเสด็จเข้าไปสู่ภายในอุโมงค์แล้ว พระนางทอดพระเนตรเห็นทางลับนั้น ก็ทรงมีพระทัยพิศวงยิ่งนัก ถึงกับทรงปรารภขึ้นว่า “เอ...ชอบกลอยู่นะ เราอยู่ที่นี่มานาน ตั้งแต่เกิดมาจนแก่ปูนนี้ ก็ยังไม่เคยลงมาตามทางนี้เลย”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 168
พระเจ้าจุลนีทรงมีพระราชบัญชาให้เหล่าเสนาตระเตรียมกองทัพใหญ่ 18กองทัพ พร้อมกับให้สัญญาณแก่พระราชาทั้งร้อยเอ็ดพระองค์ว่า “ท่านทั้งหลาย ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะร่วมใจกันเด็ดหัวศัตรูผู้ขลาดเขลา หากว่าทุกท่านพร้อมกันแล้ว ก็จงยกทัพออกไปในทันที เมื่อเผด็จศึกได้แล้ว เราถึงจะกลับมาดื่มฉลองชัยบานกันให้มโหฬารทีเดียว”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 166
มโหสถระดมคนงานราว ๖,๐๐๐คน ให้ช่วยกันขุดกรวดทรายและดิน ขนออกมาด้วยกระทงหนังขนาดใหญ่ แล้วเทลงในแม่น้ำจนน้ำขุ่นคลัก แม่น้ำนั้นก็ไหลผ่านไปถึงปัญจาละนคร ชาวเมืองต่างได้รับความเดือดร้อน ก็พากันบ่นอุบว่า “โธ่เอ๋ย ไม่น่าเลย ตั้งแต่มโหสถมานี่ ยังไม่ทันไร ก็สร้างความลำบากให้พวกเราเสียแล้ว น้ำขุ่นคลักอย่างนี้ พวกเราจะไปหาน้ำใสๆ ดื่มกินกันได้ที่ไหน”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 165
แน่นอนว่าคนเหล่านั้นทั้งหมด ต่างก็ไม่มีใครยอมให้รื้อถอนเรือนของตนเลย ทุกคนต่างต่อรองว่าจะขอจ่ายทรัพย์เป็นค่าสินบนเพื่อขอยกเว้นไม่ต้องรื้อเรือนด้วยกันทั้งสิ้น มโหสถใช้อุบายทำนองเดียวกันนี้ กระทั่งรวบรวมทรัพย์สินบนมาได้ถึง ๙๐ล้านกหาปณะ
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 148
เมื่อมาถึงประตูชั้นแรก เกวัฏก็เอ่ยถามคนเฝ้าประตูว่า “ท่านมโหสถอยู่หรือไม่ เราจะพบได้อย่างไรกัน” ว่าแล้วก็รีบเดินตรงไป แต่กลับถูกยามเฝ้าประตูกั้นไว้ พลางกล่าวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “นี่อย่าส่งเสียงเอ็ดอึงไปสิ ถ้าท่านต้องการจะมาหาท่านผู้สำเร็จราชการ ก็จงมานิ่งๆ วันนี้ท่านบัณฑิตดื่มเนยใสอย่างแรง ฉะนั้นท่านจะพูดเสียงดังไม่ได้เป็นอันขาด”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 147
พราหมณ์เกวัฏจึงได้เหยียบย่างเข้าสู่มิถิลานคร ได้เห็นหนทางที่ประดับตกแต่งไว้ดีแล้ว จึงคิดว่า พระเจ้าวิเทหราชคงรับสั่งให้เตรียมการต้อนรับคณะของตนเป็นพิเศษ คิดแล้วก็ยิ่งบังเกิดความปีติยินดีว่า “โอ...นี่พระเจ้าวิเทหราชทรงให้เกียรติเราถึงเพียงนี้เชียวหรือ พระองค์เป็นถึงจอมราชาในชมพูทวีป แต่บัดนี้กลับกลายเป็นผู้ที่น่าสงสารที่สุด หลุมพรางตื้นๆเพียงเท่านี้ พระองค์ยังพลาดท่าตกลงไปได้ ทีนี้ล่ะ...ถึงคราวเราบ้าง จะแก้แค้นให้สาแก่ใจทีเดียว”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 120
การบำรุงขวัญชาวเมืองของมโหสถบัณฑิต สำเร็จผลอย่างงดงาม ความหวาดหวั่นครั่นคร้ามของชาวเมืองก็หมดไป ในไม่ช้าอุบายของมโหสถบัณฑิตก็เริ่มเห็นผล พระเจ้าจุลนีพรหมทัตเมื่อสดับเสียงประโคมดนตรีและอาการสรวลเสเฮฮาของชาวมิถิ ลา ที่ดูคล้ายกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 119
ในการทำศึกสงครามนั้น มโหสถบัณฑิตตระหนักดีว่า สิ่งสำคัญในการสู้ศึก อยู่ที่ขวัญและกำลังใจ เพราะแม้นว่ากองทัพนั้นจะเป็นทัพใหญ่ที่มีกำลังพลมากกว่า แต่หากว่าลูกทัพปราศจากขวัญกำลังใจในการออกศึก กองทัพนั้นก็หมดท่าหมดสง่าราศี แทนที่จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะก็อาจปราชัยให้แก่ฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายๆ
มงคลที่ ๒๕ มีความกตัญญู - กตัญญู คุณค่าของความเป็นคน
พระราชาทรงดำริว่า ช้างพังนี้มีอุปการะแก่เรามาก จึงพระราชทานเครื่องคชาภรณ์ทุกอย่าง ได้บำรุงอย่างดีเหมือน กับที่พระเจ้าอุเทนทำกับภัททวดีช้างพังฉะนั้น แต่ต่อมาภายหลัง เมื่อช้างพังต้นโอฏฐิพยาธิชราภาพลง พระราชารับสั่งให้ริบทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนทำนองที่ว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลนั่นเอง
มงคลที่ ๒๑ ไม่ประมาทในธรรม - แม้เป็นคนดี ก็ไม่ควรประมาท
รุ่งขึ้น พระราชาให้นำไหขนาดใหญ่บรรจุคูถจนเต็ม เอาใบตองมาผูกปากไหไว้ ให้ไปตั้งเรียงกัน ใส่น้ำมันยาง ต้นกากะทิง และหนามงิ้วหนาๆ จนเต็มหม้อ วางไว้หัวบันได ทรงให้พวกนักมวยร่างใหญ่ ถือค้อนยืนอยู่ใกล้ๆ หัวบันได จากนั้นพระองค์ทรงรอคอยด้วยความอาฆาตแค้นที่สุมแน่นอยู่ในอก