ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 116
ครั้นแล้วสหายของมโหสถก็รีบดำเนินการตามอุบาย พากันเปล่งเสียงโห่ร้องก้องสนั่น แล้วทุบต่อยไหสุราทั้งหมดด้วยค้อนใหญ่ พร้อมกับสาดเทของบริโภคที่ตระเตรียมไว้จนไม่เหลือชิ้นดี แล้วก็ส่งเสียงอึกทึกครึกโครมไปทั่วพระราชอุทยาน ยังความสะดุ้งกลัวให้เกิดแก่เหล่าข้าราชการของปัญจาลนคร
มงคลที่ ๒๕ มีความกตัญญู - นกแขกเต้า ทุ่มเทชีวิตตอบแทนคุณ
มีอยู่ภพชาติหนึ่ง ราหุลสามเณรเคยเกิดเป็นลูกนกแขกเต้า ชื่อ สุวโปดก ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจากพระราชา และพระมเหสี คืนวันหนึ่ง อัครมเหสีของพระเจ้าพรหมทัต ทรงเกิดอาการแพ้ท้อง อยากเสวยผลไม้ชื่ออัพภันตระ เหล่าโหราจารย์ได้กราบทูลว่า มะม่วงอัพภันตระ มีอยู่ที่กาญจนบรรพตในป่าหิมพานต์โน่น ผู้ที่เป็นมนุษย์ไม่สามารถจะไปในที่นั้นได้
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 104
พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับเช่นนั้น ก็รู้สึกปลาบแปลบในพระหทัย ที่ความลับของพระองค์มารั่วไหลไปได้ พระองค์จึงทรงใคร่ครวญว่า “บุคคลอื่นที่มโหสถกล่าวถึง คงมิใช่ใครอื่นนอกเสียจากพระนางอุทุมพร พระอัครมเหสีของพระองค์เอง ที่บังอาจลอบส่งข่าวไปถึงมโหสถ”
มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - ยิ่งให้ยิ่งได้เพิ่ม
สิริ คือ ที่มานอนแห่งโภคทรัพย์สมบัติ ใครมีสิริอยู่ในตัว ย่อมจะเป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์สมบัติทุกอย่าง เป็นผู้ที่มีเสน่ห์ดึงดูดตาดึงดูดใจของผู้ได้พบเห็น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเกิดจากการประกอบเหตุไว้ดี คือ เป็นผู้ที่สั่งสมบุญกุศลไว้มาก เป็นผู้ที่รักในการฝึกฝนอบรมตนเองอยู่เป็นนิตย์ ด้วยการหมั่นรักษาศีล ชำระกาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์
มงคลที่ ๕ มีบุญวาสนามาก่อน - มหาสมบัติของผู้มีบุญ
ดูเถิดว่า บุญนี่สำคัญจริงๆ มีพลานุภาพยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น แม้พระบรมศาสดายังตรัสย้ำว่า "ใครมีบุญมาก สิ่งที่ดีมีสิริมงคลทั้งหลายจะไปอยู่กับผู้มีบุญมาก บุญจะดึงดูดสิริ ทั้งหลายมา ใครจะลักเอาไปไม่ได้ เป็นของอสาธารณะ"
มงคลที่ ๕ มีบุญวาสนามาก่อน - สมบัติเคียงคู่ผู้มีบุญ
จะเห็นได้ว่า ใครมีบุญ สมบัติจะไปอยู่กับคนนั้น นายควาญช้างเป็นผู้สั่งสมบุญไว้ดีแล้วในกาลก่อน บุญนั้นจึงส่งผลให้เขาได้เป็นพระราชา เหมือนดังที่พระบรมศาสดาได้ตรัสพระคาถาในสิริชาดก ติกนิบาตว่า
ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 14
“มะม่วงอีกต้นยังคงความสดเขียวเหมือนเดิม ไม่มีใครมารุกราน เพราะไม่มีผล แต่ต้นนี้ถูกหักกิ่งรานใบ เพราะอาศัยผลเป็นเหตุ แม้ราชสมบัตินี้ก็เช่นกับต้นไม้มีผล ส่วนบรรพชาเป็นเช่นกับต้นไม้ที่ไร้ผล ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการของใคร ภัยย่อมมีแก่ผู้มีความกังวล แต่ไม่มีแก่ผู้ไม่มีความกังวล ตัวเรานี่แหละ จะเป็นเหมือนต้นไม้ที่ไร้ผล เราจักสละราชสมบัติออกบวช”
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑ ( ปฐมเหตุ )
พระบรมโพธิสัตว์ได้ดำรงตนเป็นแบบอย่างนักสร้างบารมี ตั้งแต่ประสูติจากพระครรภ์ของพระมารดา ก็แบพระหัตถ์ออก และกล่าวกับพระมารดาว่า"เสด็จแม่ มีสิ่งใดให้ลูกได้ทำทานบ้าง" นี่..พระองค์เกิดมาเพื่อการนี้ เพื่อบ่มบารมีให้แก่รอบ ครั้นพระชนมายุได้เพียง ๘ ชันษา ประทับอยู่บนปราสาทตามลำพัง ทรงคิดที่จะบริจาคทานว่า "เราพึงให้หัวใจ ดวงตา เนื้อ เลือด และร่างกายที่มีอยู่ทั้งหมดนี้ หากใครมาขอเรา ให้เราได้ยิน เราก็จะพึงให้ด้วยความยินดี"
Buddha Hall สถานที่ปฏิบัติธรรมของชาวโซโลมอน
ผมได้คอยสังเกตว่า คนที่มานั่งสมาธิแล้วเป็นอย่างไร ผมดูพวกเขามีความสุขและสนุกกับการนั่งสมาธิ จนวันหนึ่ง เปเล่ได้แนะนำผมเกี่ยวกับการนั่งสมาธิ ผมได้นั่งสมาธิเป็นครั้งแรกในชีวิต เป็นเวลา 10นาที ผมรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกดีมาก ทำให้ผมต้องการจะนั่งสมาธิอีก ผมจึงตัดสินใจว่าจะไม่ยอมให้ใครมาใช้สถานที่ของผมทำอย่างอื่น ผมให้สถานที่นี่มีเพื่อการนั่งสมาธิเท่านั้น
บ้านนี้เจ้าที่แรง
ครั้งหนึ่งลูกสระผมอยู่ในบ้านคนเดียว พอสระผมเสร็จเด็กสาวข้างบ้านก็เดินเข้ามาหาถามลูกว่า “ อา ให้ใครมาสระผมให้หรือ” ลูกก็เลยตอบว่า “เปล่า สระเอง” เด็กสาวคนนั้นก็เลยพูดว่า “ หนูเห็นมีผู้หญิงใส่ชุดขาว มายืนสระผมให้อาอยู่” ซึ่งความจริงแล้ว ลูกอยู่คนเดียวจริงๆเจ้าค่ะ