มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 34
พระราชาองค์ใหม่ และทีมงานก่อสร้างวัดใหม่ทุกคน ต่างก็ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยกันสร้างวัดใหม่ให้สำเร็จอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันกันเลย
มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 30
เมื่อพระราชาเสด็จออกผนวชเป็นพระเถระแล้ว ท่านมหาเสนาบดีก็รู้สึกดีใจและปลื้มปีติใจเป็นอย่างมาก และท่านก็มักที่จะหาโอกาสไปสั่งสมบุญและปฏิบัติธรรมกับพระมหาเถระอยู่เสมอ
เพื่อนพ้องพี่น้องกัน
ท่านทั้งหลายจงเห็นการทะเลาะวิวาทกันว่า เป็นเหตุแห่งภัย และเห็นการไม่วิวาทกันว่า เป็นความเกษมสำราญแล้ว พึงเป็นผู้พร้อมเพรียง มีความประนีประนอมกันเถิด นี้เป็นพระพุทธานุสาสนี
มหาสติปัฏฐานสูตร
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นทางสายเอก ที่เป็นไปเพื่อความหมดจดวิเศษของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อก้าวล่วงเสียซึ่งความโศก และความร่ำไร เพื่อความดับไป แห่งทุกข์ และโทมนัส เพื่อบรรลุไญยธรรม เพื่อกระทำพระนิพพานให้แจ้ง ทางนี้คือสติปัฏฐาน ๔
ตั่วเฮียกลับใจ บวชรุ่นกองพล
"ถ้าคนอย่างผมบวชได้ คนบนโลกนี้ก็บวชได้หมด" แล้วผู้ชายคนหนึ่งก็ได้มาบวช ตามคำชักชวนของคนรู้จัก คนอย่างเขาซึ่งไม่น่าที่จะบวชได้ เพราะมีพื้นฐานความรู้ทางพระพุทธศาสนาน้อย ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกจนจบปริญญาโท ซึมซับแต่อริยธรรมเมืองนอก และผ่านการทำความชั่ว จนหลายคนให้ฉายาว่า "ตั่วเฮีย"
อย่าก่อเวรอีกเลย
บุคคลใดละบาปที่ตนทำไว้แล้วด้วยกุศล บุคคลนั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง เหมือนดวงจันทร์ที่พ้นแล้วจากเมฆหมอก
รักษาใจเพียงหนึ่งเดียว
ผู้มีปัญญา พึงรักษาจิตที่เห็นได้แสนยาก ที่ละเอียดยิ่งนัก มักตกไปในอารมณ์ตามความปรารถนา เพราะจิตที่รักษาไว้ได้ดีแล้ว เป็นเหตุนำความสุขมาให้
ปัจจัยในการบรรลุธรรม
การฝึกจิตที่บุคคลข่มได้ยาก เป็นธรรมชาติแล่นไปเร็ว มักตกไปในอารมณ์ตามความปรารถนา เป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าจิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมเป็นเหตุนำความสุขมาให้
หลุดพ้นจากเวร
เพราะเหตุใด พวกเธอจึงจองเวรกันอย่างนี้ ถ้าหากพวกเธอไม่มาพบเราแล้ว เวรของพวกเธอจะเป็นเช่นนี้อยู่ชั่วกัป เหมือนเวรของงูกับพังพอน ของหมีกับไม้ตะคร้อ ของกากับนกเค้า เพราะฉะนั้น จงเลิกจองเวรกันเถิด เพราะเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
จดหมายจาก ท่านแทพุง ซือนิม พระภิกษุมหายานชาวเกาหลี
ท่านแทพุง ซือนิมพระภิกษุมหายาน ชาวเกาหลี อายุ 53 ปี บวชมาได้ 30 พรรษาเมื่อวันวิสาขบูชาได้มาวัดพระธรรมกายเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต